วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

10 ผลไม้ไทยมีสารต้านมะเร็ง     
 
กรมอนามัยวิจัย 10 ผลไม้ไทย มีสารต้านมะเร็งสูง นางนัทยา จงใจเทศ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการทำวิจัย "องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และ เบต้าแคโรทีน) ในผลไม้" ที่ทำการศึกษาในผลไม้ 83 ชนิด พบว่า ...

ผลไม้ 10 อันดับแรกที่มีเบต้าแคโรทีนสูง คือ

10 ผลไม้ไทยมีสารต้านมะเร็ง รูปที่ 1

1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
2. มะเขือเทศราชินี
3. มะละกอสุก
4. กล้วยไข่
5. มะม่วงยายกล่ำ
6. มะปรางหวาน
7. แคนตาลูปเนื้อเหลือง
8. มะยงชิด
9. มะม่วงเขียวเสวยสุก
10. สับปะรดภูเก็ต

ผลไม้ทั้งหมดนี้มีสีเหลืองและสีเหลืองเข้ม

ส่วนผลไม้ที่ไม่มีเบต้าแคโรทีนเลย คือ
1. แก้วมังกร
2. มะขามเทศ
3. มังคุด
4. ลิ้นจี่
5. สาลี่

ส่วน 10 อันดับแรกของผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง คือ

10 ผลไม้ไทยมีสารต้านมะเร็ง รูปที่ 2 10 ผลไม้ไทยมีสารต้านมะเร็ง รูปที่ 3

1. ฝรั่งกลมสาลี่
2. ฝรั่งไร้เมล็ด
3. มะขามป้อม
4. มะขามเทศ
5. เงาะโรงเรียน
6. ลูกพลับ
7. สตรอเบอร์รี่
8. มะละกอสุก
9. ส้มโอขาวแตงกวา
10. พุทราแอปเปิล


การศึกษานี้พบผลไม้ที่มีวิตามินอีสูง 10 อันดับแรก คือ
1. ขนุนหนัง
2. มะขามเทศ
3. มะม่วงเขียวเสวยดิบ
4. มะเขือเทศราชินี
5. มะม่วงเขียวเสวยสุก
6. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก
7. มะม่วงยายกล่ำสุก
8. แก้วมังกรเนื้อสีชมพู
9. สตรอเบอร์รี่
10. กล้วยไข่

ผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอีน้อย
ทั้ง 3 ตัว คือ สาลี่, องุ่น, และแอปเปิล


ส่วนผลไม้ที่มีสารทั้ง 3 ตัว ค่อนข้างสูงคือ มะเขือเทศราชินี
10 ผลไม้ไทยมีสารต้านมะเร็ง รูปที่ 4


ทั้งนี้ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและอี เป็นกลุ่มของสารอาหารที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ก่อให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทำลายเนื้อเยื่อ เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด สารทั้ง 3 ตัว โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก ลดความเสี่ยง การเป็นต้อกระจก มะเร็งและหัวใจได้ จึงควรรับประทานผลไม้ในปริมาณมากพอสมควรทุกวัน หรืออย่างน้อยวันละ 4 ส่วนของอาหารที่รับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดี



รู้ว่าบ้านเราก็มีของดีอย่างนี้ ก็หมั่นบริโภคเป็นประจำนะครับ นอกจากจะห่างไกลโรคแล้ว ยังเป็นการช่วยเกษตรกรอีกด้วยนะครับ กินอาหารเป็นยา ดีกว่ากินยาเป็นอาหารนะครับชาว men.mthai ทั้งหลาย
มังคุด Mangosteen
 
 
มังคุด Mangosteen ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ราชินีแห่งผลไม้ เพราะรสชาติที่อร่อยหอมหวานและกลมกล่อม มังคุดยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายสารพัด
 
 
 
 
 
 
งานสัมมนาแถลงข่าวมังคุดเพิ่มคุณภาพชีวิต ผู้ป่วยมะเร็ง โดยเพิ่มเม็ดเลือดขาว Th1, Th17 ซึ่งในห้องทดลองพบว่ามีฤทธิ์กำจัดและป้องกันการก่อเกิดเซลล์มะเร็ง
คนไทยสมัยโบราณรู้จักนำ มังคุด มาแปรรูปเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็น เปลือกมังคุด ใช้ฝนกับน้ำปูนใส เพื่อทาแผลให้หายเร็วขึ้น และช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า หรือถ้านำไปต้ม ก็สามารถดื่มแก้อาการท้องร่วง ขณะที่เนื้อมังคุดมีกากใยช่วยเรื่องขับถ่าย และยังอุดมด้วยสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่นับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ เหล็ก
 
 
มังคุด ผลไม้ไทยในปัจจุบัน ได้ถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภททั้งมังคุดอบแห้ง น้ำมังคุด ไวน์มังคุด อาหารเสริมจากมังคุด ยาสระผมมังคุด ครีมนวดผม สบู่ โลชั่น โดยผลจากการศึกษาของศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย โดยการนำของ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา, รศ.ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม, รศ.ดร.เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร และ รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง ซึ่งทำการวิจัยเรื่องคุณประโยชน์ของมังคุดมานานกว่า 3 ทศวรรษ (สามสิบกว่าปี) ได้พบว่า มังคุดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูงมากในเชิงสุขภาพโดยสามารถปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ด้วยการลดการหลั่ง Interleukin I และ Tumor Necrosis Factor ซึ่งตามหลักวิชาของศาสตร์ภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับการแพ้ภูมิตนเอง และการอักเสบ พบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน, ตับเสื่อม, ไตวาย, ข้อเข่าอักเสบ, ความดันโลหิต, โรคพาร์กินสัน, ไทรอยด์เป็นพิษ, และความผิดปกติของสมอง อันเกิดจากการอักเสบ ขณะเดียวกัน มังคุดก็สามารถเพิ่มการหลั่งสาร Interleukin II ของเม็ดเลือดขาวช่วยให้ร่างกายสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย หรือ เซลล์มะเร็ง
 
 

 
 
ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทย ได้ร่วมวิจัยกับค่าย Henkel KGa ของประเทศเยอรมนี ค้นพบด้วยว่า สารจากมังคุดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือสาร GM-1 (แซนโทนส์ที่ดีที่สุดในมังคุด) ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และระงับปวด โดยมีความแรงกว่ายาแอสไพรินถึง 3 เท่า จากจุดนี้เองได้มีการต่อยอดการวิจัยพัฒนาไปสู่การทำเครื่องสำอางค์ต่างๆจากสารสกัดเปลือกมังคุดเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อช่วยเหลือคนที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง และอาการแพ้
ขณะที่ในปัจจุบัน ทางคณะวิจัยดังกล่าวได้ร่วมมือกับเครือข่ายทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ ทำการศึกษาถึงคุณประโยชน์ของการดื่มน้ำมังคุดสกัดเข้มข้น เพื่อช่วยเยียวยาอาการป่วยของผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้าย
 
แตงโม


 
 
ที่ผ่านมา ประชาชนมีความสงสัยและมีคำร่ำลือว่า “แตงโม” เป็นผลไม้ที่มีการปนเปื้อนของสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชสูง และอาจมีการฉีดสี หรือสารให้ความหวานหรือน้ำตาลทราย เพื่อให้สีสดสวยและมีรสหวาน ทำให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยไม่กล้าที่จะซื้อแตงโมมารับประทาน
แต่ขณะนี้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัยได้แล้ว เมื่อกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เก็บตัวอย่างแตงโมมาตรวจวิเคราะห์ และสรุปได้ว่า แตงโมเป็นผลไม้ที่ปลอดภัย แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย

นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลว่า สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เก็บตัวอย่างแตงโมจากแหล่งขายส่งในกรุงเทพฯ รวม 20 ตัวอย่าง โดยมีแหล่งปลูกในจังหวัดต่างๆ ได้แก่ กาญจนบุรี กำแพงเพชร นครราชสีมา นครสวรรค์ ยโสธร สกลนคร สระแก้ว สุโขทัย สุพรรณบุรี หนองคาย และอยุธยา มาตรวจวิเคราะห์


 

 ทั้งนี้ผลปรากฏว่า ไม่พบวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือน้ำตาลทราย (ซูโคส) เพื่อเพิ่มความหวาน และไม่มีการใช้สีสังเคราะห์เพื่อให้สีสดสวย แต่เมื่อวิเคราะห์ทั้งเปลือก ตรวจพบสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช จำนวน 14 ตัวอย่าง โดยตรวจพบ methomyl 3 ตัวอย่าง ปริมาณต่ำกว่ามาตรฐาน และพบสารที่ไม่มีมาตรฐานกำหนด 3 ชนิด ได้แก่ cypemethrin 13 ตัวอย่าง chlorpyrifos 2 ตัวอย่าง และ bifenthrin 1 ตัวอย่าง ปริมาณที่ตรวจพบเมื่อคำนวณปริมาณที่ได้รับต่อคนต่อวัน พบว่า จะได้รับสารทุกชนิดต่ำกว่าค่าปลอดภัยที่องค์การอนามัยโลกกำหนดมากกว่า 100 เท่า

ส่วนปริมาณน้ำตาลทั้งหมด พบว่า แตงโมมีน้ำตาลทั้งหมดร้อยละ 6.81-9.36 โดยมีน้ำตาลฟรุคโตส ร้อยละ 3.04-4.16 น้ำตาลกลูโคสร้อยละ 1.35-2.65 และน้ำตาลซูโคส ร้อยละ 1.47-4.68


กระท้อนปุยฝ้าย
 
 
 
 
 
 
 
กระท้อนปุยฝ้าย ผลใหญ่รสเยี่ยม
กระท้อน เป็นผลไม้เมืองร้อนชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานและปลูกกันแพร่หลาย มีด้วยกันหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันทั้งขนาดของผลและรสชาติ ชนิดที่มีผลขนาดเล็ก มีรสเปรี้ยว นิยมเอาไปดองเค็มโดยเอาเมล็ดออกเก็บไว้รับประทานได้ หรือปอกเปลือกแล้วสับทั้งผล เอาเมล็ดไว้ยำใส่พริกป่น น้ำปลา น้ำตาลปีบเล็กน้อย รสแซบดีมาก สาวๆชอบนัก นอกจากนั้น เนื้อผลยังใช้ปรุงเป็นแกงส้ม แกงกะทิ ใส่กุ้ง ปลาเนื้ออ่อน หรือแกงกับเนื้อวัวเพิ่มดีกรีความอร่อยยิ่งขึ้น สมัยโบราณนิยมแกงส้มเนื้อกระท้อนกันมาก ปัจจุบันหารับประทานไม่ได้อีกแล้ว
สำหรับ “กระท้อนปุยฝ้าย” ถือเป็นพันธุ์ที่มีผลขนาดใหญ่ที่สุดของบรรดากระท้อนทั้งหมด รสชาติเปรี้ยวนำและปนหวานเล็กน้อย มีจุดเด่นที่เนื้อหุ้มเมล็ดเยอะ สีขาวบริสุทธิ์ดุจปุยฝ้าย เลยถูกเรียกชื่อว่า “กระท้อนปุยฝ้าย” มาจนกระทั่งปัจจุบัน


กระท้อนปุยฝ้าย หรือ SANDORICUM INDI-CUM CAR, S.KOETJAPEMERR อยู่ในวงศ์ MELIACEAE เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แตกกิ่งก้านหนาแน่นเป็นพุ่มทรงกลมกว้าง ใบเป็นใบประกอบมีใบย่อย 3 ใบ ขนาดใหญ่มาก รูปใบหอก ปลายแหลม มีติ่ง โคนสอบ ใบอ่อนเป็นสีเขียวสด เวลาใบแก่จะเป็นสีแดงสดดูสวยงามมาก
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กหลายดอก เป็นสีเหลืองอ่อน “ผล” รูปทรงกลม มีขนาดใหญ่มาก ผลเมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัมต่อผล เปลือกผลหนาเป็นสีเหลือง เนื้อในผลเป็นสีส้ม รสเปรี้ยวปนฝาดนิดๆ จิ้มเกลือพริกป่นหรือสับทำยำตามที่กล่าวข้างต้น อร่อยมาก มีเมล็ด 4 เมล็ด เนื้อหุ้มเมล็ดเป็นปุยสีขาว เมล็ดเล็ก รสชาติเนื้อหุ้มเมล็ดหวานปนเปรี้ยวนิดๆ บางคนชอบรับประทานเปล่าๆ แต่บางคนนิยมเอาไปคลุกกับน้ำปลาพริกป่นรสแซบเด็ดขาดนัก


กระท้อนปุยฝ้าย จะติดผลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง ปัจจุบันมีต้นขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 19 แผง “นายดาบสมพร” ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป เป็นไม้ชอบแดด ไม่ชอบน้ำท่วมขัง หลังปลูกรดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น บำรุงปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยขี้วัวขี้ควายแห้งกลบฝังดินรอบโคนต้นเดือนละครั้ง เมื่อติดผลและเก็บเกี่ยวผลแล้วต้องตัดแต่งกิ่งทันทีพร้อมใส่ปุ๋ยบำรุงต้น สูตร 15-15-15 ทันที พอต้นแตกยอดใส่ปุ๋ยคอกปุ๋ยขี้วัวหรือขี้ควายแห้งตามที่กล่าวข้างต้น จะทำให้ “กระท้อนปุยฝ้าย” มีผลดก ผลโต รสชาติอร่อยเมื่อถึงฤดูกาล ประโยชน์ทางยาใบ ขับเหงื่อ ต้มอาบแก้ไข้ รักษาโรคผิวหนัง ราก แก้ท้องร่วง แก้บิดมูกเลือด ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ครับ.
ประวัติส่วนตัว
 
 
 
 
 
 
นางสาว  ภัทรานิษฐ์  พรนราปรีชากลุ  ชื่อเล่น   พลอย

เกิดวันที่ 9  พฤษภาคม 2535

ผลไม้ชอบกิน  แตงโม 

คติประจำใจ  ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
 
รหัสประจำตัว  55244624     Section 02